ใช้ยาบรรเทาอาการปวด โดยแพทย์จะให้ยาจากการประเมินจากความรุนแรงของอาการเป็นหลัก หากมีอาการปวดต้นคอไม่รุนแรงมาก อาจบรรเทาได้ด้วยการทานยาพาราเซตามอล แต่หากอาการปวดนั้นมีสาเหตุจากการอักเสบรุนแรง แพทย์อาจให้ยาลดการอักเสบร่วมด้วย อย่างไรก็ตามการรับประทานยาควรทานตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น 2. ทำกายภาพบำบัดและการนวด ในกรณีที่มีอาการปวดรุนแรงจนขยับคอลำบาก อาจต้องกระตุ้นกล้ามเนื้อโดยการประคบร้อน ประคบเย็น และการดึงคอ รวมถึงการบีบนวดที่ถูกวิธีก็ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อคอได้ นอกจากนี้ควรฝึกบริหารกล้ามเนื้อคอให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดเรื้อรังด้วย 3. ใส่เฝือกคอ เมื่อวินิจฉัยแล้วอาการปวดคอ จำเป็นต้องได้รับการดูแล ไม่ควรขยับคอมาก แพทย์จะแนะนำให้ใส่เฝือกเพื่อเป็นการช่วยพยุงคอ การใส่เฝือกคอชั่วคราวจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้เช่นกัน 4.
เกลืออาบน้ำจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดอาการตึงกล้ามเนื้อ และลดความเครียด ลองใช้เกลืออาบน้ำหลายชนิดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด คุณสามารถใช้ดีเกลือผสมน้ำอุ่นได้ ดีเกลือทำจากแมกนีเซียมและซัลเฟต ซึ่งสามารถใช้จัดการปัญหาสุขภาพต่างๆ และเพิ่มความผ่อนคลายได้ แมกนีเซียมจะช่วยปรับการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด และช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง 5 ใช้แผ่นประคบร้อน. ประคบแผ่นประคบร้อนสักสองนาทีเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดตรงคอ 6 ใช้ถุงน้ำแข็ง. ประคบถุงน้ำแข็งหรืออะไรก็ได้จากช่องแช่แข็งที่ห่อด้วยผ้าเช็ดตัวไปยังบริเวณที่ปวด น้ำแข็งจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีกว่าความร้อน 7 ทายาหม่องบริเวณที่ปวด. ยาหม่องมีหลายชนิดตามสรรพคุณ ทั้งแบบสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการปวด และแบบที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ดูให้ดีว่ายาหม่องที่คุณเลือกใช้เป็นยาหม่องชนิดไหน เจล IcyHot และน้ำมันมวย จะช่วยเพิ่มความร้อนหรือทำให้ผิวรู้สึกร้อนขึ้น หลังจากความร้อนของ IcyHot ช่วยระงับอาการปวดแล้ว ความเย็นของผลิตภัณฑ์จะช่วยระงับความเจ็บ นวดยาหม่องชนิดนี้หรือชนิดใกล้เคียงบริเวณคอเพื่อบรรเทาอาการปวด 8 หากรู้สึกปวดคอมาก คุณอาจจะต้องใช้ที่รองคอ.
หอบหืด มักมีอาการไอ โดยมีเสียงหวีดในทรวงอก มีอาการหอบเหนื่อย หายใจไม่สะดวก หายใจดัง ซึ่งเป็นโรคที่ ควรได้รับการรักษาโดยเร็ว ไม่เช่นนั้น อาจมีผลต่อชีวิตได้ เป็นโรคที่ สามารถพบได้ ในทุกเพศ ทุกวัย 7. วัณโรค ผู้ป่วยมักมีอาการไอ ในบางราย อาจมีไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก รู้สึกอ่อนเพลีย หอบเหนื่อย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ มีเหงื่อออกมาก มีไข้ตอนกลางคืน และ มักมีอาการไอเรื้อรัง ที่นานผิดปกติ มากกว่า 3 สัปดาห์ 8. มะเร็งปอด มักมีอาการไอเรื้อรัง มากกว่า 3 สัปดาห์ อาจมีอาการไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก มีไข้ แต่จะไม่มีเสมหะ โดยส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นกับ ผู้ที่สูบบุหรี่จัด สะสมเป็นเวลานาน 9. หลอดลมโป่งพอง มักมีอาการไอ ที่มากกว่า 10 สัปดาห์ขึ้นไป ติดต่อกันเป็นเวลานาน มีเสมหะ กลิ่นเหม็น อาจมีเลือด หรือ หนองปนด้วย หายใจมีเสียงดัง มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ สูบบุหรี่ 10.
วีระพันธ์บอกว่ามีทางเลือกในการรักษาอีกหลายวิธี แต่ 3 วิธีที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เป็นวิธีการรักษาอาการ ปวดหลัง ปวดคอเรื้อรังที่ได้ผลดีและยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาท เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการ ปวดหลัง เรื้อรัง ร่วมกับอาการปวดขา ชา และอ่อนแรงซึ่งเป็นสัญญาณของการที่เส้นประสาทถูกรบกวน โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ มีสาเหตุมาจากการหนาตัวขึ้นของกระดูกหรือเส้นเอ็นบริเวณโพรงกระดูกสันหลังจนไปกดเบียดเส้นประสาทเป็นที่มาของอาการ ปวดหลัง เรื้อรัง ร่วมกับอาการขาชาและอ่อนแรง 1. การฉีดยาเฉพาะจุดเพื่อลดการอักเสบ (Local Steroid Injection) วิธีนี้เป็นการรักษาอาการ ปวดหลัง เรื้อรังโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะพิจารณาทำในผู้ป่วยโรค ปวดหลัง ที่รับประทานยา และทำกายภาพบำบัดแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น แต่เมื่อตรวจโดยการเอกซเรย์ และเอ็มอาร์ไอแล้วพบว่า สภาพของกระดูกสันหลังยังไม่เสื่อมจนถึงขั้นจะต้องผ่าตัด "ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอยู่ค่อนข้างมาก เรียกว่ามากกว่าผู้ที่ต้องผ่าตัดด้วยซ้ำ" นพ.
shopnwf.com, 2024